โรงงานผลิตเครื่องสําอาง พร้อมสร้างแบรนด์ตัวเอง ได้มาตรฐาน ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ

โรงงานผลิตเครื่องสําอาง Dermageneration คือโรงงานที่จะเข้ามาช่วยให้ความฝันการทำแบรนด์เครื่องสำอางของคุณกลายเป็นเรื่องจริง ทางโรงงานมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ช่วยให้คำแนะนำตั้งแต่กระบวนการเริ่มออกแบบ การผลิตเครื่องสำอางตามความต้องการ ไปจนถึงการส่งออกสินค้าให้ถึงมือลูกค้าทันที มาดูกันว่าข้อดีของการจ้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง ตลอดจนการแนะนำขั้นตอนการผลิตและออกแบบเครื่องสำอางที่ตอบโจทย์กับแบรนด์ของคุณได้อย่างลงตัว

โรงงานผลิตเครื่องสำอาง แบบOne-Stop Service  ปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากล

Dermageneration โรงงานผลิตเครื่องสำอางแบบ One-Stop Service เป็นตัวช่วยสร้างแบรนด์อย่างครบวงจร มีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย พร้อมควบคุมการผลิตโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสำอางโดยเฉพาะ และมั่นใจในความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น GMP, ISO 9001, ISO 22716, ASEAN และ HALAL แถมยังมีสารสกัดมากมายให้เลือกใช้ตามความต้องการของแบรนด์และกลุ่มลูกค้า มั่นใจได้ว่าแบรนด์ต้องนำเทรนด์จากคู่แข่งทั่วทุกมุมโลกได้อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ก็เข้ามาออกแบบแบรนด์ที่โรงงานผลิตเครื่องสำอาง Dermageneration ได้เลย!

ใช้บริการโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ดีอย่างไร?

ใช้บริการโรงงานผลิตเครื่องสำอาง โดยเฉพาะบริษัทที่เป็น OEM มีข้อดีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดต้นทุนจากการตั้งโรงงานของตัวเอง ลดค่าใช้จ่ายทางด้านบุคลากรที่ต้องมาควบคุมการผลิตเครื่องสำอาง พร้อมได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องสำอางโดยตรง การันตีคุณภาพของเครื่องสำอางแบรนด์คุณได้เลยว่าต้องออกมาดี ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคาอย่างแน่นอน

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชนิดใดบ้าง ที่สามารถสั่งผลิตทำแบรนด์ได้

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่สามารถสั่งผลิตทำแบรนด์ได้มีหลายประเภท ดังนี้

1. รองพื้น
   • เนื้อแมตต์ รองพื้นที่ให้ผิวดูเรียบเนียนและไม่มันเงา
   • เนื้อโกลว์ รองพื้นที่ให้ความเงางามและดูมีชีวิตชีวา
2. คุชชั่น ผลิตภัณฑ์ที่รวมคุณสมบัติของรองพื้นและแป้งผสมรองพื้น มีความสะดวกในการใช้งานและพกพา
3. อายแชโดว์ ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งเปลือกตาที่มีหลายเฉดสีและเนื้อสัมผัส เช่น ชิมเมอร์หรือแมตต์
4. ลิปสติก รวมถึงลิปแมตต์ ลิปกลอส และลิปทรีตเมนต์ ซึ่งมีหลายสูตรและสีให้เลือก
5. แป้งฝุ่น ใช้สำหรับเซ็ตเมคอัพหรือให้ความสว่างแก่ผิวหน้า
6. มาสคาร่า สำหรับเพิ่มความหนาและยาวให้กับขนตา
7. อายไลเนอร์ ใช้สำหรับเขียนขอบตาเพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับดวงตา
8. เซรั่มบำรุงผิว มีหลากหลายสูตรเพื่อการบำรุงที่แตกต่างกัน เช่น เซรั่มลดสิวหรือเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น
9. ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ เช่น ครีมกันแดด โทนเนอร์ และเจลล้างหน้า

มาดู 6 ขั้นตอนการผลิตเครื่องสําอาง เริ่มต้นง่าย ไม่ยุ่งยาก

ใช้บริการโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ช่วยออกแบบสินค้าพร้อมขายได้ใน 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก นักลงทุนมือใหม่ที่อยากมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเองต้องรู้ ทำได้อย่างไรบ้าง? ไปหาคำตอบได้เลย

1. เลือกสูตรเครื่องสำอางที่ต้องการ

เจ้าของแบรนด์แจ้งรายละเอียดของเครื่องสำอางที่ต้องการให้กับทางโรงงานผลิตเครื่องสําอาง ไม่ว่าจะเป็น

• ลักษณะ และคุณสมบัติของเครื่องสำอาง
• ส่วนผสม และสารสกัดที่ต้องการ
• เนื้อสัมผัส กลิ่น และสีเฉพาะของเครื่องสำอาง

โดยทางโรงงานผลิตเครื่องสําอางมี Price List ไว้ให้ทางเจ้าของแบรนด์ได้เลือก มีขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 500 ชิ้นต่อสูตร ในราคา 50,000 บาท 

ในกรณีที่ทางเจ้าของแบรนด์ต้องการพัฒนาสูตรให้มีความเป็นเอกลักษณ์ มีขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 10 กิโลกรัม ในราคา 100,000 บาท/ครั้ง/บิล

2. รอใบเสนอราคา พร้อมจ่ายค่ามัดจำในการผลิต 

รอให้เจ้าหน้าที่ของทางโรงงานผลิตเครื่องสําอางจัดส่งใบเสนอราคาผลิตสินค้า จากนั้นให้เจ้าของแบรนด์ชำระเงินตามที่กำหนด โดยเป็นเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 50% ตามใบเสนอราคา

3. ดำเนินการออกแบบโลโก้ และจดแจ้งเอกสารต่าง ๆ

ทางโรงงานผลิตเครื่องสําอางจะช่วยออกแบบโลโก้ และฉลากให้กับทางลูกค้า โดยมีระยะเวลาในการออกแบบประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นจะส่งตัวอย่างให้ทางลูกค้าเลือก เมื่อลูกค้าเลือกโลโก้ที่ถูกใจเรียบร้อยแล้ว ทางโรงงานผลิตเครื่องสําอางจะเริ่มดำเนินการจดแจ้งอย. และขอเอกสารสำหรับการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ

4. ทางโรงงานเริ่มผลิตเครื่องสำอาง

ในขั้นตอนนี้จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเครื่องสำอางอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีระยะเวลาในการผลิตสินค้าประมาณ 30 วัน และในกรณีที่เจ้าของแบรนด์ต้องการปรับสูตร ทางโรงงานผลิตเครื่องสําอางจะให้ปรับสูตรได้ไม่เกิน 3 ครั้ง

5. จ่ายค่าผลิตส่วนที่เหลือ

เมื่อผ่านกระบวนการผลิตเครื่องสำอางจนเสร็จสิ้นออกมาเป็นตัวสินค้าเรียบร้อยแล้ว ก่อนเริ่มกระบวนการส่งออกให้ถึงมือเจ้าของแบรนด์ เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องชำระเงิน 50% (ส่วนที่เหลือจากมัดจำ) ให้ครบก่อน 

6. รับสินค้า พร้อมออกจำหน่ายได้ทันที

ในขั้นตอนสุดท้าย ทางโรงงานผลิตเครื่องสําอางจะเริ่มจัดส่งสินค้าให้กับเจ้าของแบรนด์ตามที่อยู่ที่ได้รับแจ้งไว้ก่อนหน้า โดยคาดว่าเจ้าของแบรนด์จะได้รับสินค้าภายในระยะเวลา 3 วันหลังจากการชำระเงินส่วนที่เหลือเสร็จสิ้น

เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางอย่างไร ให้ผลิตภัณฑ์ออกมาตอบโจทย์

ได้รู้ขั้นตอนการผลิตเครื่องสำอางกันไปแล้ว มาดูว่าเจ้าของแบรนด์ควรพิจารณาเลือกใช้บริการโรงงานผลิตเครื่องสําอางอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมาตอบโจทย์ ตรงใจตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ ตัวผลิตภัณฑ์ และประสิทธิภาพการใช้งาน โดยมีหลักการพิจารณาดังนี้

1. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่มีความเชี่ยวชาญ

โรงงานผลิตเครื่องสําอางแต่ละแห่งต่างก็มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตที่แตกต่างกันออกไป โดยความเชี่ยวชาญจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์การผลิตสินค้ารวมถึงประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในโรงงานนั้น ๆ ด้วย หากมองหาโรงงานผลิตเครื่องสําอางควรเริ่มต้นจากการเลือกหาโรงงานที่มีความถนัดในด้านที่เราต้องการ เช่นควรเลือกมองหาโรงงานที่ถนัดผลิตสินค้าควบคุมความมัน ลดปัญหาสิว หรือช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว เป็นต้น

2. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่ได้มาตรฐาน

โรงงานผลิตเครื่องสําอางที่เลือกใช้บริการต้องผ่านมาตรฐานทั้งไทยและสากล โดยมีมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ซึ่งมาตรฐานที่ควรมองหาหลัก ๆ ได้แก่ GMP, FDA, ISO 9001, ISO 22716, ASEAN และ HALAL

3. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่มีบริการแบบครบวงจร

หารบริการแบบครบวงจร หรือ One-Stop Service เป็นหัวใจสำคัญในการเลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางเลยก็ว่าได้ เพราะโรงงานประเภทนี้จะให้บริการสร้างแบรนด์ของคุณตั้งแต่การเลือกสูตรสินค้า ออกแบบพัฒนาสูตรสินค้าให้ตอบโจทย์กับความต้องการ ตลอดจนถึงขั้นตอนการเลือกบรรจุภัณฑ์ ออกแบบโลโก้และฉลาดสินค้า และขั้นตอนยิบย่อยอื่น ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นทะเบียนอย. ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำการตลาดอย่างเหมาะสม เป็นตัวช่วยให้แบรนด์ของคุณประหยัดทั้งเวลา งบประมาณ และลดการใช้งานบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นบริการที่ตอบโจทย์กับนักสร้างแบรนด์มือใหม่ที่ต้องการคำแนะนำ หรือสำหรับคนที่เคยมีแบรนด์ตัวเองอยู่แล้วก็เข้ามาใช้บริการกันได้เช่นกัน

4. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่มีกำลังการผลิตตอบโจทย์

ก่อนตกลงปลงใจกับโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ควรสอบถามเกี่ยวกับกำลังการผลิตด้วยว่าตอบโจทย์กับความต้องการของแบรนด์คุณหรือไม่ เช่น ในกรณีที่แบรนด์ของคุณต้องการผลิตเครื่องสำอางในจำนวนมาก แล้วโรงงานที่ทำหน้าที่ผลิตเครื่องสำอางมีกำลัง บรรจุภัณฑ์ ส่วนผสม หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไม่เพียงพอ อาจทำให้ส่งออกสินค้าให้คุณไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ธุรกิจของคุณอาจติดขัด หรือสะดุดเป็นช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ นอกจากนี้ หากคุณเป็นแบรนด์เล็ก ๆ อยากลองผลิตสินค้าออกมาทดลองขายประมาณ 500-700 ชิ้น การเลือกผลิตกับโรงงานที่มีขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 ชิ้นก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ เสียเงินให้กับการผลิตที่อาจไม่จำเป็นได้ด้วยเช่นกัน

5. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่ผลิตสินค้าหลายรูปแบบ

หากแบรนด์ของคุณอยากออกสินค้าหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก แป้งผสมรองพื้น และบลัชออนในระยะเวลาเดียวกัน ควรมองหาโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่สามารถรองรับการผลิตสินค้าหลากหลายรูปแบบได้ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการหาโรงงานอื่น ๆ ได้มากขึ้น

6. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต

อีกหนึ่งข้อสำคัญที่หลายแบรนด์มองข้ามจนงบบานปลาย นั่นก็คือการมองหาโรงงานผลิตเครื่องสําอางที่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่มี เลือกโรงงานที่มีข้อเสนอราคาที่เหมาะสม ทางแบรนด์จ่ายไหว พร้อมเสนอแนวทางการผลิต รวมถึงสารสกัด หรือสูตรที่หลากหลายให้เลือกตามงบประมาณ การเสนอแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้แบนด์ของคุณมีตัวเลือกในการจัดสรรงบประมาณที่มากขึ้น ช่วยให้การลงทุนเกิดเป็นผลกำไรในอนาคตได้ และนอกจากราคาที่ต้องเหมาะสมแล้ว อย่าลืมตรวจสอบความโปร่งใสของทางโรงงานประกอบกันโดนหลอกด้วย

7. เลือกโรงงานที่มีทีมงานคอยให้คำปรึกษา

ในขั้นตอนการผลิตจำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง ควรเลือกโรงงานที่มีพนักงานพูดจาดี มีความรู้ พร้อมตอบคำถามได้อย่างฉะฉานและมั่นใจ รวมถึงทางโรงงานต้องมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาอย่างสะดวก และมีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน

8. เลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอางจากรีวิวลูกค้า

ขั้นตอนสุดท้ายในการเลือกโรงงานผลิตเครื่องสําอาง ควรมองหาโรงงานที่มีรีวิวจากกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มแบรนด์ที่เคยเข้ารับบริการว่าดีหรือไม่ พิจารณาเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย ความเชี่ยวชาญเฉพาะ รวมถึงลองอ่านประสบการณ์ที่ลูกค้าก่อนหน้าเคยได้รับ  แล้วเอาข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกันในแต่ละโรงงานที่เลือก เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าแบรนด์ของคุณเลือกใช้บริการกับโรงงานที่มีความเป็นมืออาชีพและให้บริการได้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด 

อยากผลิตเครื่องสำอางต้องเตรียมเงินทุนเท่าไร

การผลิตเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูง แต่ต้องใช้ทั้งเงินทุนและเวลาในการเริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง งบประมาณเริ่มต้นสำหรับการผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมบำรุงผิว อาจอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิต คุณภาพของวัตถุดิบ และขนาดของบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน อย. ค่าเช่าโรงงาน หรือค่าเช่าห้องปฏิบัติการ และค่าใช้จ่ายในการตลาดอีกด้วย

ระยะเวลาในการดำเนินการผลิตเครื่องสำอาง

ระยะเวลาในการผลิตเครื่องสำอางนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ซับซ้อน โดยสามารถแบ่งขั้นตอนหลัก ๆ ได้ดังนี้

• การพัฒนาสูตร หากเป็นสูตรใหม่หรือต้องมีการปรับปรุงสูตรเดิม อาจใช้เวลาตั้งแต่หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์และมาตรฐานที่ตั้งไว้
• กระบวนการผลิต เมื่อได้สูตรที่ลงตัวแล้ว ขั้นตอนการผลิตจริงจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงการผสมส่วนผสม การบรรจุ และการตรวจสอบคุณภาพ โดยระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์
• การเตรียมพร้อมสู่ตลาด หลังจากผลิตเสร็จสิ้น ยังต้องมีขั้นตอนการเตรียมบรรจุภัณฑ์ การออกแบบฉลาก และการดำเนินการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

ระยะเวลาทั้งหมดในการผลิตเครื่องสำอางหนึ่งชิ้น อาจใช้เวลาตั้งแต่ 1-3 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

หากคุณอยากสร้างแบรนด์เครื่องสำอางแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? แนะนำให้เลือกใช้บริการที่โรงงานผลิตเครื่องสําอาง ทางเลือกที่จะช่วยให้การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องง่าย ด้วยบริการสร้างแบรนด์ที่ดูแลอย่างครอบคลุมแบบ One-Stop Service ที่ให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่กระบวนการผลิตเครื่องสำอาง การเลือกสูตรหรือสารสกัดที่เหมาะสม การออกแบบและเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ตลอดจนการวางแผนการขายที่เหมาะสม

Dermageneration โรงงานผลิตเครื่องสำอางแบบครบวงจร มีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแบบ One-Stop Service พร้อมควบคุมการผลิตโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ทางโรงงานมีมาตรฐานการรองรับจากสากลไม่ว่าจะเป็น GMP, ISO 9001, ISO 22716, ASEAN และ HALAL มั่นใจได้ว่าเครื่องสำอางที่ได้จะตอบโจทย์กับแบรนด์ของคุณ และปลอดภัยกับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน